สำนักงานพาณิชย์จังหวัดตรัง
เลขที่ 28 ถนนวิเศษกุล ตำบลทับเที่ยง อำเภอเมือง จังหวัดตรัง 92000
โทรศัพท์ : 075-211-488 Email : tg_ops@moc.go.th
“นายธนินท์ เจียรวนนท์” ประธานอาวุโส เครือเจริญโภคภัณฑ์ กล่าวปาฐกถาพิเศษว่า เราต้องชมเชยรัฐบาลชุดที่ผ่านมา ภายใต้การบริหารงานของ พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา ในด้านการบริหารวินัยการเงิน การคลัง ทำให้การเงินของประเทศไทยอยู่ในระดับท็อปของโลก หนี้ต่อจีดีพีของประเทศ เพียง 61% ขณะที่หลายประเทศเกิน 100%
แต่วันนี้เศรษฐกิจของโลกไม่เหมือนกัน เรามีวินัยการเงินดีเกินไป ถ้าดีเกินไปมันก็เกิดวิกฤตเศรษฐกิจ ผมเชื่อว่าโลกนี้กำลังเข้าสู่วิกฤตเศรษฐกิจ ยกเว้น สหรัฐอเมริกา ที่ทุกคนยังเชื่อมั่น แม้การเงินของอเมริกาเจอปัญหา อเมริกาขึ้นดอกเบี้ย ส่งผลให้เงินไหลเข้ามากขึ้น แม้ว่าอเมริกามีหนี้สูงเกิน 100% ต่อจีดีพี แต่คนก็ยังให้ความเชื่อมั่นการเงินของอเมริกา
สำหรับการบริหารประเทศภายใต้รัฐบาลชุดใหม่ ผมมีความเชื่อมั่นสูงมากว่าเข้ามาในเวลาที่ถูกต้อง ที่จะมาแก้ไขเรื่องเศรษฐกิจโดยเฉพาะจากประสบการณ์ด้านบริหารธุรกิจที่เติบโตอันดับ 1 ด้านอสังหาริมทรัพย์ การดูแลวินัยการเงิน ของนายกฯเศรษฐา ได้อย่างเยี่ยม การออกบอนด์ 4% แสดงให้เห็นว่าไม่ใช่เป็นนักธุรกิจอสังหาฯอย่างเดียว แต่เป็นนักบริหารการเงินอย่างยอดเยี่ยม
เหตุการณ์ของโลก ผมมีความมั่นใจว่า มาตรการที่รัฐบาลออกมา ทุกอย่างถูกต้อง เพราะเศรษฐกิจไม่ปกติ การเข้ามากระตุ้นเศรษฐกิจในภาวะที่ไม่ปกติ เป็นสิ่งที่ต้องดำเนินการ เพราะประเทศเปิดแล้วไม่ได้เจอวิกฤตโควิด-19 อย่าง 3 ปีที่ผ่านมา
นโยบายพักหนี้เกษตรกร ผมเห็นด้วยอย่างยิ่ง ไม่ใช่ว่าพักนี้เกษตรกรแล้วก็เสียวินัยการเงิน ผมขอถามว่าในโลกนี้ประเทศไหนที่เจริญรุ่งเรืองได้โดยไม่ปกป้องราคาสินค้าเกษตร เพราะสินค้าเกษตรเปรียบเสมือนน้ำมันบนดินของประเทศไทย
เรามองว่าสินค้าเกษตรไม่ค่อยมีค่าเท่าไหร่ แต่พอปลูกเสร็จ ข้าวเปลือกขายเข้าโรงสี ตัวเงินไม่ใช่ของเกษตรแต่ได้ส่งต่อไปยังอุตสาหกรรม ไปเพิ่มมูลค่า อย่างอ้อยเกษตรกรขายอ้อยเข้าโรงงาน เป็นน้ำตาลก็กลายเป็น สินค้าของอุตสาหกรรมไปแล้ว ลองคิดดูสินค้าเกษตร เราผลิตได้เกือบจะได้ 100% งอกจากแผ่นดินไทย บางอย่าง ปุ๋ย อาจจะนำเข้า แล้วถ้าหากว่าสินค้าเกษตรเพิ่มมูลค่าขึ้นอีก 2-3 เท่า ประเทศไทยจะมีรายได้ของประเทศไทยที่แท้จริง
ถ้าประเทศอยู่ไม่ได้ ประชาชนไม่มีกำลังซื้อ แล้วพวกเรามีสินค้าจะขายให้ใคร
“ผมเห็นด้วยกับการออกโครงการเงินดิจิทัล 10,000 บาท และสนับสนุน เราต้องช่วยกันพูดว่านี่ไม่ใช่ไปช่วยเหลือคนยากจน แต่เป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจต้องให้เข้าใจ
แล้ววินัยทางการเงินเรายังไม่ได้เสียเลย แต่แล้วพอเรากระตุ้นแล้วก็ต้องมีแผนสอง ทั้งระยะสั้น ระยะกลาง ระยะยาว เชื่อมั่นว่าถ้านักธุรกิจ ข้าราชการ นักการเมือง มองประเทศชาติเป็นหลัก เอาตัวเองเป็นที่ 3 เชื่อมากว่าประเทศไทย ภายใต้การนำรัฐบาลชุดใหม่ ต้องทำให้ประเทศเจริญรุ่งเรืองแน่นอน เพราะมีความเชื่อมั่นมาก”
ทุกวันนี้ใคร ๆ ก็อยากจะมาอยู่เมืองไทย ขณะที่โลกเจอวิกฤต ยกเว้นอเมริกาวิกฤต แต่ดูแล้วอเมริกายังเป็นผู้นำเศรษฐกิจ แม้เงินเฟ้อ 4% แต่จีดีพีโต 10% อย่าไปกลัวเงินเฟ้อ ให้เงินเฟ้อบ้าง สิ่งที่กังวลมากกว่าคือ เงินฝืดที่อันตราย เหมือนความดัน หัวใจหยุดเต้น เศรษฐกิจ ประเทศชาติล้มละลาย ถ้าหากเงินเฟ้อยังมีโอกาสแก้ไข เหมือนความดันสูงยังมียาควบคุมง่ายกว่าความดันต่ำ
“วันนี้ผมห่วงที่สุด ผมไม่ได้ห่วงว่าเงินเฟ้อ ผมห่วงที่สุดคือ เงินฝืด วินัยการเงินเราเยี่ยมมาก เอามาใช้กระตุ้นเศรษฐกิจ”
วิกฤตในปัจจุบันไม่เหมือนวิกฤตต้มยำกุ้ง เศรษฐกิจมีปัญหา และประเทศไทยการเงินของเรายังอยู่ในท็อปของโลก ดังนั้นทั่วโลกมองแล้วว่า อาเซียน 10 ประเทศ และประเทศไทยน่าลงทุน
วิกฤตของโลก ผมกลับมองว่าเป็นโอกาสของประเทศไทย ผมมีความเชื่อมั่นแบบนี้ ผมอาจจะพูดผิด แต่ผมเชื่อมั่นมากกว่า เพราะดู ๆ ไปแล้วประเทศไทยปลอดภัยที่สุด ไม่ได้ขัดแย้งใคร อาเซียน 10 ประเทศ มีความอุดมสมบูรณ์กำลังเติบโต ประชากรเติบโต จำนวนมากขึ้น
“เวียดนามกำลังจะมีประชากร 100 ล้านคน มีแต่ประเทศไทยกำลังเข้าสู่ผู้สูงอายุ ซึ่งเร็วไปหน่อย ปัญหาของไทยกำลังกลายเป็นประเทศแรกในอาเซียนที่มีผู้สูงอายุ หลายประเทศมีการเติบโตของประชากร ไทยเหลือประชากรไม่ถึง 70 ล้าน อันนี้อันตราย แต่ไม่กลัวครับ เรามีโอกาสถ้าเรามีรัฐบาลที่เข้าใจ แล้วประชาชนเข้าใจ ร่วมแก้ปัญหา”
ผมว่าประเทศไทยเนื้อหอม ในโลกมีคนเก่งอยากจะมาอยู่เมืองไทย เพียงแต่เราเข้าใจผิด เรากลัวว่าเข้ามาแย่งอาชีพคนไทย ผมว่าไม่ใช่ ถ้าเรารู้จักออกกฎเกณฑ์ กฎระเบียบ ไปชักชวนคนเหล่านี้มาเป็นคนไทยไปเลย เรามีประชากรเกือบ 70 ล้านคน หากนำเข้ามา 5 ล้านคน จะช่วยพัฒนาประเทศเกิดการจ้างงาน
เพราะบางอย่างต้องยอมรับว่าบุคลากรของเรายังไม่มีความรู้ในด้านเทคโนโลยีไฮเทค ถ้าประเทศไทยมีบุคลากรที่มีความรู้ความสามารถ เชื่อว่าจะยกระดับประเทศไทยให้ดีขึ้น แต่รัฐบาลต้องให้เอื้อความสะดวกด้านกฎหมาย
นักธุรกิจส่วนใหญ่เป็นนักธุรกิจตัวหนัก การผลิตเป็นตัวหนัก แต่ขายออนไลน์ซื้อมาขายไปเป็นตัวเบา วันนี้เราต้องมองทั้งตัวเบาและตัวหนัก อะไรที่จับต้องได้ต้องทำ ถ้าออนไลน์ขายได้มากใครผลิตสินค้าให้ แต่ยุคนี้กำลังเข้าสู่ยุคสำคัญ ที่เราต้องเปลี่ยนการผลิตให้มันไฮเทคขึ้น ให้มันทันสมัยขึ้น เร็วขึ้น ถูกลง เพื่อรองรับสิ่งที่เปลี่ยนแปลง
ฝากรัฐบาล เราควรจะมีกองทุนสนับสนุน มีผู้เชี่ยวชาญมาช่วยชี้แนะ นักธุรกิจไทยผมเชื่อว่าไทยไม่แพ้ใคร รัฐบาลต้องมีการเงินเข้ามาสนับสนุนและเอาความรู้คนเก่ง ๆ ที่มาช่วยประเทศไทย และก้าวหน้าไปด้วยกัน
สุดท้าย ออนไลน์ยิ่งมากก็ต้องพึ่งผู้ผลิตมากขึ้น อะไรที่จะจับต้องได้ก็ต้องผลิต จะไปขายออนไลน์ก็ยิ่งมาพึ่ง พวกเรา เราเป็นธุรกิจตัวหนัก และเป็นธุรกิจหลักของชาติของเศรษฐกิจ ก็หวังว่าทุกคนจะมีอนาคตและรับการเปลี่ยนแปลงให้ทัน บริหารจัดการใช้ระบบใหม่ ให้มีประสิทธิภาพสูงขึ้น และไม่ใช่อาศัยค่าแรงงานถูก หมดยุคแล้ว แต่ค่อย ๆ เปลี่ยน ซึ่งเราต้องเตรียมความพร้อมการเปลี่ยนแปลง